กฎหมาย พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.๒๕๕๑
ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ว่าด้วยการจดทะเบียนองค์กรเอกชนด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์พ.ศ. ๒๕๕๒ Add to Bookmark Share
ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ว่าด้วยการจดทะเบียนองค์กรเอกชนด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์พ.ศ. ๒๕๕๒
เพื่อให้องค์กรเอกชนที่มีการดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ได้รับการสนับสนุนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๖ (๖) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ว่าด้วยการจดทะเบียนองค์กรเอกชนด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๒”
ข้อ ๒* ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
*ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖ ตอน ๗๐ พิเศษ ง หน้า ๑๕ วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๒
ข้อ ๓ ในระเบียบนี้
“องค์กรเอกชน” หมายความว่า องค์กรที่มิใช่ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือองค์กรอื่นของรัฐ ซึ่งไม่ได้แสวงหากำไร และมีการดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นนิติบุคคลหรือไม่ และให้รวมถึงมูลนิธิ สมาคม ที่จดทะเบียนตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือตามกฎหมายอื่น
“การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์” หมายความว่า การดำเนินการเกี่ยวกับการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ เช่น การป้องกัน การคุ้มครองช่วยเหลือ การให้ที่พัก อาหาร การรักษาพยาบาล การบำบัดฟื้นฟูทางร่างกายและจิตใจ การดำเนินคดีและการบังคับใช้กฎหมาย การส่งกลับและคืนสู่สังคม ความร่วมมือระหว่างประเทศ รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในด้านอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์กำหนด เป็นต้น
“สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
“ปลัดกระทรวง” หมายความว่า ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ข้อ ๔ องค์กรเอกชนใดมีความประสงค์ที่จะยื่นคำขอจดทะเบียนองค์กรเอกชนด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
(๑) จะต้องดำเนินกิจการและมีผลงานเกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ต่อเนื่องจนถึงวันยื่นคำขอไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
(๒) มีที่ทำการตั้งอยู่ในท้องที่ที่จะยื่นคำขอไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
(๓) มีบุคลากร หรืออาสาสมัครในการปฏิบัติงาน หรือมีที่ปรึกษาที่มีความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน ปราบปราม หรือแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์
(๔) มีแผนงาน โครงการ และกิจกรรมเกี่ยวข้องกับการป้องกัน ปราบปราม หรือแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างชัดเจน
(๕) ผู้บริหารองค์กรเอกชน ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสีย ไม่เป็นบุคคลล้มละลายและไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำด้วยความประมาท หรือความผิดลหุโทษ
ข้อ ๕ การยื่นคำขอจดทะเบียนเป็นองค์กรเอกชนด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ตามระเบียบนี้ ให้ผู้บริหารองค์กร หรือผู้ได้รับมอบฉันทะจากองค์กรเอกชนยื่นคำขอตามแบบท้ายระเบียบนี้ พร้อมแนบเอกสารและหลักฐานประกอบการพิจารณา ดังต่อไปนี้
(๑) สำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้บริหารองค์กรที่ยื่นคำขอ
(๒) สำเนาตราสารจดทะเบียนมูลนิธิ สมาคม หรือสำเนาข้อบังคับ ระเบียบขององค์กรเอกชนซึ่งผู้บริหารองค์กร หรือผู้ซึ่งได้รับมอบฉันทะให้คำรับรอง
(๓) รายนามคณะกรรมการหรือคณะผู้บริหารองค์กร
(๔) แผนงานโครงการขององค์กรเอกชนที่จะดำเนินการ
(๕) ผลการดำเนินงานขององค์กรเอกชนในระยะเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
การยื่นคำขอตามวรรคหนึ่งให้ยื่นคำขอด้วยตนเอง หรือส่งโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับก็ได้
ข้อ ๖ การยื่นคำขอในส่วนภูมิภาคให้ยื่นคำขอที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดที่องค์กรเอกชนนั้นมีสถานที่ทำการตั้งอยู่ และให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจารณาเสนอความเห็นต่อผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่ออนุมัติให้จดทะเบียน แล้วรายงานผลให้ปลัดกระทรวงทราบ
ในกรุงเทพมหานครให้ยื่นคำขอต่อสำนักงาน เพื่อพิจารณาเสนอความเห็นต่อปลัดกระทรวงเพื่ออนุมัติให้จดทะเบียน
ข้อ ๗ ในกรณีองค์กรเอกชนใดที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นองค์กรเอกชนด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์แล้ว ให้สำนักงาน หรือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ที่รับคำขอออกใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนตามแบบแนบท้ายระเบียบนี้ให้แก่องค์กรเอกชนนั้น
หลักเกณฑ์การขอรับการช่วยเหลือจากกองทุนเพื่อการป้องกันละปราบปรามการค้ามนุษย์ให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และอนุมัติการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
องค์กรเอกชน ตามวรรคหนึ่งอาจได้รับการพิจารณาส่งเสริมสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินกิจการขององค์กรจากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้รับคำขอ เห็นว่าการยื่นคำขอจดทะเบียนเป็นองค์กรเอกชนด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์มิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วน ให้แจ้งผู้ยื่นคำขอโดยไม่ชักช้า
ในกรณีที่ไม่ได้รับการอนุมัติให้จดทะเบียนตามระเบียบนี้ ให้แจ้งเหตุผลให้ผู้ยื่นคำขอทราบภายในสี่สิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้รับเอกสารครบถ้วนแล้ว
ข้อ ๙ ให้ปลัดกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัด มีอำนาจเข้าไปดูแล ให้คำแนะนำ แก่องค์กรเอกชนที่จดทะเบียนตามระเบียบนี้ซึ่งรับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ไว้ดูแล ในเรื่องความปลอดภัย การคุ้มครองดูแล และสภาพความเป็นอยู่ของผู้เสียหาย
ข้อ ๑๐ ในกรณีที่มีการเลิกกิจการหรือเปลี่ยนชื่อองค์กรเอกชนใด ให้องค์กรเอกชนนั้นแจ้งต่อสำนักงานที่รับจดทะเบียน เพื่อให้มีการแก้ไขทะเบียนรายชื่อต่อไป
ข้อ ๑๑ องค์กรเอกชนใดขาดคุณสมบัติ ให้ผู้อนุมัติคำขอมีอำนาจเพิกถอนรายชื่อจากทะเบียนองค์กรเอกชน
ข้อ ๑๒ ให้สำนักงานทบทวนรายชื่อองค์กรเอกชนที่จดทะเบียน ทุกสองปี เพื่อเป็นข้อมูลในการประสานงานการดำเนินงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ข้อ ๑๓ ให้ปลัดกระทรวงรักษาการตามระเบียบนี้ และให้มีอำนาจกำหนดแบบแนวปฏิบัติ รวมทั้งวินิจฉัยชี้ขาดในกรณีที่มีปัญหา หรือข้อขัดแย้งเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรี
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์